เปิดพอร์ต+รีวิวสัมภาษณ์ จิตวิทยาคลินิก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์!!!!!
ตั้งกระทู้ใหม่
มหาวิทยาลัย + สาขาที่ติด
จริง ๆ ตอนแรกอยากยื่นจิตวิทยาอย่างเดียวเลยแต่กลายเป็นว่าใจเริ่มไขว้เขวละว่าอยากยื่นอย่างอื่น5543545 เริ่มยื่นอันดับไปตามนี้เลยครับ
1. คณะสังคมศาสตร์ ภาควิชาจิตวิทยา สาขาจิตวิทยาคลินิก (ภาคพิเศษ) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
2. คณะอักษรศาสตร์ ยุโรปศึกษา สาขาวิชาภาษาฝรั่งเศส มหาวิทยาลัยศิลปากร
3. วิทยาลัยสหวิทยาการ สาขาปรัชญา การเมือง และเศรษฐศาสตร์ (ภาคพิเศษ) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ผลประกาศออกมาว่า ติดทั้งหมดเลยย เย้~~~ แต่ก็ค่อนข้างตกใจเหมือนกันที่ติดหมดเพราะสาขาค่อนข้างแตกต่างกันมากกกก54564565 แต่ในฐานะที่เราเลือกยืนยันสิทธิ์ที่เกษตรศาสตร์ ฉะนั้นวันนี้พี่จะมาเจาะลึกที่จิตวิทยาคลินิกก่อนเลยย เดี๋ยวสาขาอื่นรีวิวตามมาแน่นอนน
ความเข้าใจเกี่ยวกับพอร์ต
ก่อนที่เราจะเตรียมตัวในการพอร์ตเราต้องเข้าใจก่อนว่าพอร์ตคืออะไร ต้องสื่ออะไร กรรมการต้องการดูอะไรจากเรา และความเป็นพอร์ตในความคิดของเราเป็นอย่างไร
//ทั้งหมดนี้เป็นการตีความในความคิดของพี่นะครับ//
> พอร์ต หรือ แฟ้มสะสมผลงาน = คือการรวบรวมผลงานและแสดงถึงศักยภาพที่ทางมหาลัยต้องการเพื่อที่จะคัดเลือกคนที่เหมาะสมเข้ารับการศึกษา โดยผลงานนั้น ๆ เป็นผลงานที่เราเก็บสะสมและยังสื่อถึงความเป็นเราเพื่อให้กรรมการเห็น ฉะนั้นเรารู้สึกว่าเราควรใช้สีใช้การออกแบบที่สื่อถึงเรามากกว่าสื่อถึงมหาลัยครับ
> กรรมการต้องการดู = ในความคิดเห็นพี่ พี่คิดว่ากรรมการต้องการดูผลงาน บุคลิกภาพ และทัศนคติเราว่าเหมาะกับสาขาและมหาลัยนี้ไหมครับ
หาตัวเองเจอได้ยังไง
เราต้องดูก่อนว่าเราเป็นคนชอบทำกิจกรรมหรือชอบอ่านมากกว่าแต่ส่วนตัวชอบทั้งคู่เลยทำทั้งคู่เลย อย่างแรกเราก็ดูก่อนว่าเราชอบวิชาไหนเป็นพิเศษไหมหรือรู้สึกเรียนวิชาไหนได้เป็นพิเศษเราก็เอามาเขียนใส่ลิสต์ไว้ก่อนเลย แต่ถ้าไม่มีพี่มีวิธีที่สองนั่นก็คือ..... ดูรีวิวกับลองดูชื่อวิชาใน TCAS นั่นเองง
เป็นวิธีลับของพี่เลยก็ว่าได้เพราะชื่อไหนที่มันปิ๊ง ๆ เข้ามาในตาของเรานั่นแหละจะทำให้เราสนใจ
ขั้นที่ 2 : ลองดูรายวิชาในหลักสูตร เราอาจจะยังไม่ค่อยรู้เนื้อหาของมันหรอก แต่ถ้าชื่อมันดูน่าเรียนแปลว่าเราเรียนได้แน่นอน (แต่แนะนำลองไปหารีวิวดูก่อนนะ)
เปิดพอร์ตจิตคลินิก มก
ขอเกริ่นก่อนเลยนะครับว่าพี่ตีความสาขานี้คือควรจะมีทักษะการพูด การเข้าใจผู้อื่น และทักษะการปรึกษาเป็นหลัก ๆ จากที่พี่ตีความและจากเกณฑ์ของพอร์ต
<<จะเห็นว่าการสอบสัมภาษณ์นั้นจะแยกกับพอร์ตดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการสัมภาษณ์คือ บุคลิกภาพเหมาะสมกับการเป็นนักจิตวิทยา ถึงจำนวนรับจะเขียนแค่ 2 แต่ทุกคนอย่าพึ่งท้อใจไปเพราะถ้าเราได้รอบสัมภาษณ์แล้วอาจารย์เห็นแววมากกว่า 2 คนอาจารย์จะรับมากกว่านั้น อย่างในปี 67 นี้อาจารย์รับไป 4 คนจ้าา>>
[[ 1.ขั้นยื่นพอร์ต ]]
60% แรกคือเกรดเฉลี่ย 5 เทอมและคะแนน TGAT นั่นเอง แต่ปีนี้เป็นปีแรกที่มีการใช้คะแนน TGAT ถึง 30% ดังนั้นพี่ขอบอกคะแนนพี่ก่อนเลย
- เกรดเฉลี่ยสะสม 5 เทอม = 3.98 30% จะได้เป็นคะแนน 29.85
- TGAT รวม = 69.722 30% จะได้เป็นคะแนน 20.9166
- รวม 60 คะแนนได้คะแนนไปแล้ว 50.7666 คะแนน
เสร็จไปแล้วกับพาร์ทคะแนน สำหรับพี่คือสูงมากกกกก ภูมิใจในตัวเองสุด ๆ
ฉะนั้นอีก 40% ที่เหลือ คือ รูปเล่มพอร์ต บอกเลยว่าส่วนนี้ก็คะแนนสูงไม่แพ้กันและยังเป็นสิ่งที่จะทำให้เราดูน่าสนใจอีกด้วย พลาดไม่ได้เลย รูปเล่มพอร์ตจากการตีความของพี่จากเกณฑ์จะเน้นทางด้านจิตอาสา ฟิลพลเมืองดีสุด ๆ แปลว่าด้านนี้เราก็ควรเน้นเป็นพิเศษ ที่สำคัญเราควรบรรยายด้วยว่าเราได้รับอะไรจากการทำกิจกรรมนั้น ๆ
เนื้อหาของเราแบ่งตามนี้เลย
1.โครงงานทางจิตวิทยา (อันนี้ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ แต้ถ้าใครอยากทำแนะนำปรึกษากับคุณครูแนะแนวได้เลย)
2.กิจกรรมทางจิตวิทยา ในส่วนนี้โชคดีมากกกที่ รร.ของพี่มีกิจกรรมนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา YC ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับจิตวิทยาการปรึกษาเป็นอย่างมากเลยจะทำให้เรามีบุคลิกภาพของนักจิตวิทยาไปในตัวซึ่งสามารถนำไปต่อยอดในสายงานจิตวิทยาคลินิกได้พี่เลยใส่เข้ามาครับ
2.1 นักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา 2 ปีการศึกษา , ประธานนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา 1 ปีการศึกษา
2.2 ผู้ช่วยสอนในชุมนุม YC
2.3 เสียงตามสายรายการ Let Me Beside You (เป็นรายการให้กำลังใจและความรู้ทางจิตวิทตอนเช้าทุกวันพุธ ในส่วนนี้เป็นกิจกรรมที่เราคิดขึ้นตอนเป็นประธานกิจกรรมครับ)
2.4 อบรม CMU MOOC (โรคและยาดานจิตเวชพื้นฐานสำหรับเภสัชกรและบุคลากรทางการแพทย , จิตวิทยาการปรึกษาสำหรับผูเริ่มตน , การให้คำปรึกษาทางสุขภาพ)
3.การแข่งขันทางวิชาการ ปกติถ้าสายนี้อาจจะใส่แข่งโครงงานวิทย์หรือแข่งขันทางวิทยาศาสตร์แต่พี่ฉีกเลยเพราะพี่รู้สึกว่าพี่เป็นคนถนัดพูดและการพูดก็สำคัญมากสำหรับนักจิตวิทยาเช่นกันพี่เลยใส่แต่ผลงานแข่งทางด้านวาทศิลป์ครับ (เด็กสายวิทย์หัวใจศิลป์สุด ๆ 555464534) แนะนำให้เอาผลงานที่คิดว่าเราภูมิใจกับมันที่สุด ถึงจะไม่ชนะก็ไม่เป็นไรแต่พยายามเขียนอธิบายว่าทำไมเราถึงภูมิใจในผลงานนี้มาก อาจจะเพราะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราชอบหรือเรารู้สึกทุ่มเทกับมันมากก็ได้เช่นเดียวกันครับ
3.1 แข่งขันโต้วาทีทางกฎหมาย
รองชนะเลิศอันดับ 1 ระดับประเทศ ณ โรงเรียนเซนต์คาเบรียล จริง ๆ อันนี้ทางโรงเรียนไม่กำหนดมาพี่เลยตีเป็นผลงานระดับประเทศเพราะรับสมัครจากทั่วภูมิภาคแล้วคัดมาแข่งอีกทีครับ
3.2 การแขงขันสุนทรพจนหัวขอสืบ(สาน)นาคะเสถียร
เข้าร่วมระดับประเทศ จัดโดย มูลนิสืบนาคะเสถียร ร่วมกับ ชมรมปาฐกถาและโต้วาที มหาวิทยาลัยรามคำแหง
3.3 การประกวดบรรยายธรรม ระดับชั้นม.ปลาย หัวข้ออหิงสานําพาสู่ความสงบ
ชมเชย ระดับภาค จัดโดย กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ทุกคนอาจจะไม่รู้ว่ามีการแข่งขันนี้แต่บอกเลยก็จัดเป็นการแข่งขันทางวาทศิลป์เช่นกัน!!! ผลงานที่ดูไม่เกี่ยวแต่สามารถยื่นได้เพราะการบรรยายธรรมจริง ๆ จำเป็นต้องเลือกสรรคำให้ไพเราะในขณะเดียวกันก็ต้องฟังแล้วรู้สึกคล้อยตาม อีกทั้งยังต้องมีความละเมียดละไมในการพูดจึงใส่ลงมาด้วยเช่นเดียวกันครับ
3.4 การประกวดนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา ระดับชั้นม.ปลาย
รองชนะเลิศอันดับ 1 เหรียญทองระดับเขตพื้นที่ ในงานศิลปหัตถกรรมครั้งที่ 70
4.กิจกรรมและจิตอาสา พาร์ทนี้คิดว่าสำคัญมากที่สุดเพราะในเกณฑ์ระบุค่อนข้างที่จะชัดเจน ฉะนั้นเราก็ต้องไม่ธรรมดาเช่นกัน แบ่งได้ 2 ส่วนคือกิจกรรมกับจิตอาสา
4.1 กิจกรรม
4.1.1 รางวัลเด็กดีศรีเตรียมพัฒน์ ผู้มีความเป็นเลิศด้านผู้นำและด้านวิชาการ 3 ปีซ้อน
4.1.2 รองประธานคณะสีอินทนิล
4.1.3 พิธีกรงานโรงเรียนทั้งสิ้น 6 เทศกาล
4.2 จิตอาสา
4.2.1 โรงพยาบาลศิริราช คณะแพทยศาสตรศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล (ฝึก 20 ชั่วโมง / 4 วัน)
4.2.2 โรงพยาบาลศรีธัญญา (ฝึก 80 ชั่วโมง / 10 วัน)
4.2.3 โรงพยาบาลพระมงกุฎเกลา แผนกกุมารเวช (ฝึก 3 ชั่วโมง / ครึ่งวัน)
เชื่อว่ามาถึงตรงนี้ทุก ๆ คนสนใจการฝึกงานที่โรงพยาบาลศรีธัญญาแน่นอน นั้นเดี๋ยวแถมการยื่นขอฝึกงานให้
//ควรยื่นทำเอกสาร 1-2 เดือนก่อนวันที่จะฝึก//
- โทรไปที่เบอร์ของโรงพยาบาลศรีธัญญา 02-528-7800 จากนั้นติดต่อ operator (ถ้าจำไม่ผิด) ว่า "ต้องการติดต่อขอฝึกประสบการณ์ของนักเรียนม.ปลายที่โรงพยาบาลครับ/ค่ะ" ทาง รพ.จะส่งสายให้ฝ่ายฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
- ให้เราคุยกับพี่เค้าได้เลยว่าต้องการฝึกเพื่อที่จะเอาไปใส่พอร์ต พี่เค้าก็จะถามว่าอยากฝึกช่วงวันที่เท่าไหร่ ฝึกกี่วัน (เพราะมีโอกาสที่จะชนกับฝึกงานของพี่นักศึกษาพยาบาล เราก็จะฝึกไม่ได้) ให้เราระบุให้ชัดเจน
- ทาง รพ.จะบอกเอกสารที่ต้องใช้ในการฝึกงาน ให้เราจดไว้ก่อนเลย ให้ถามวิธีการส่งเอกสารด้วย
- เมื่อคุยเสร็จให้ไปคุยกับคุณครูแนะแนวว่า "เรากำลังใจไปฝึกงานแล้วโรงบาลต้องการเอกสารจากทางโรงเรียน รบกวนคุณครูทำให้หนูได้ไหมคะ" ถ้าคุณครูมีแบบฟอร์มก็อาจจะให้เราทำเองหรือทำให้เลย (ทำเองเราจะได้เอกสารเร็วสุดเพราะไม่ต้องรอครูทำให้) แต่ถ้าไม่มีแบบฟอร์มเราสามารถค้นหาจากเน็ตได้เลยครับ
- กว่าเอกสารจะได้รับการอนุมัติต้องผ่านหลายฝ่ายมาก อีกทั้งอาจจะดวงดีเกิ๊น ดันชนกับช่วงที่คุณครูเอกสารเยอะพอดี ฉะนั้นขั้นตอนนี้ควรเผื่อรอเอกสารไปเลย 1-2 อาทิตย์ ในกรณีแย่ที่สุดอาจจะเป็นเดือนได้ พยายามตามเอกสารด้วยตนเองอยู่ตลอด
- เมื่อเอกสารได้รับการอนุมัติ มีลายเซ็นต์ ผอ.แล้วให้ส่งเอกสารให้ทาง รพ.ได้เลยครับ เพราะต้องให้ ผอ.โรงพยาบาลเซ็นต์ครับ
- จากนั้นอีกไม่กี่วัน (ไม่น่าจะเกิน 1 อาทิตย์) ทางพี่ ๆ ฝ่ายฝึกจะไลน์ติดต่อมาว่าฝึกได้ไหม ชนกับพี่ ๆ พยาบาลรึเปล่า เพราะฉะนั้นจึงควรเผื่อเวลาไว้อีก 1 อาทิตย์เผื่อกันต้องแก้เอกสารครับ
สัมภาษณ์
> เข้ากลุ่มสัมภาษณ์
บอกเลยสัมที่นี่ยูนีคมาก เพราะจะไม่มีกลุ่มไลน์เป็นลิงก์หรือให้แสกนตอนประกาศแต่พี่ ๆ ในสาขาจะเป็นคนโทรหาน้อง ๆ เอง!!! พี่ ๆ จะให้เด็ก ๆ ADD ไลน์พี่ ๆ จากเบอร์โทรจากนั้นจะดึงเข้ากลุ่มให้ ตอนแรกพี่ก็ตกใจเหมือนกัน นึกว่ามิจฉาชีพ แต่พอลองโทรสอบถามมหาลัยก็ใช้วิธีนี้จริง!!! ที่สำคัญบอกประกาศ 9 โมง แต่เหมือนพอมาวันประกาศปุ๊ปตอนเที่ยงคืนก็ประกาศเลย!!! ตอนวันประกาศตัวจริงก็เป็น
> วันสัมภาษณ์
แจ้งน้อง ๆ ก่อนนะครับว่าจะไม่มีการบอกลำดับการสัมภาษณ์ก่อน แต่จะติดป้ายประกาศหน้าห้องรอสัมวันที่สัมเลยทีเดียว ฉะนั้นไปแต่เช้า ๆ ก่อนเลยจะดีมาก พูดตรง ๆ ว่าตื่นเต้นสุด ๆ แต่มีความสุขมากกกกก เพราะรู้สึกว่าเราทำเต็มที่แล้ว เหลืออีกแค่นิดเดียว สรุปตอนเห็นใบหน้าห้อง ภาคปกติเรียกสัม 12 ภาคพิเศษเรียกสัม 6 คนแล้วชื่ออยู่คนสุดท้ายของตาราง จึ้ง!!!!! ฉะนั้นก็รอวนไป จะมีพี่ ๆ ต้อนรับและคอยเรียกเราให้กำลังใจเราอยู่ตลอด พี่ ๆ น่ารักมากกกกก ให้กำลังใจสุด เพื่อน ๆ ที่มาสัมก็จึ้ง เม้ากันฉ่ำ แลกพอร์ตกันดูสุด แม้แต่ตอนสัมคนสุดท้ายก็มีเพื่อน ๆ รอ ซึ้งใจมากกก จริง ๆ อยากขอโทษเพื่อนคนนึงมากคือตอนแรกเห็นแล้วว่ามาสัมเหมือนกันแต่ความอุของพี่คือพี่จำหน้าคนไม่ได้ พอเดินลงไปเหมือนเห็นหน้าคนที่เคยเห็นหน้าอีกรอบเค้าก็มองพี่แต่พี่กำลังทำสมาธิอยู่เลยเหมือนเมิน อยากขอโทษมาก ฮือ ๆๆๆ
> เนื้อหาที่สัมภาษณ์
อาจารย์ก็จะถามน้อง ๆ เกี่ยวกับที่น้อง ๆ ใส่เข้ามาในพอร์ตแต่พี่แนะนำคือตอบให้เป็นตัวเราแต่ก็คงไว้ด้วยความสุภาพไว้ก่อนก็จะดี อย่างพี่เน้นที่ YC อาจารย์ก็จะเน้นถามเกี่ยวกับ YC เช่น ยกตัวอย่างเคสมาปรึกษาให้บอกว่าขั้นตอนทางการปรึกษาข้อไหนสำคัญสำหรับเคสนี้แต่พี่แถมเทคนิคให้ด้วยเลยตามสไตล์คนเก๋ แต่มีอีก 1 คำถามที่จึ้งที่สุด หลายคนออกมาจากห้องแล้วร้องไห้นั่นก็คือ ให้เล่าเรื่องตัวเองที่รู้สึกเศร้ามากที่สุด พี่รู้สึกว่าเป็นคำถามที่หินมาก เพราะอย่าลืมว่าต้องเป็นผู้มีบุคลิกภาพเหมาะสมกับการเป็นนักจิตวิทยา ซึ่งถ้าเรายังไม่เข้าใจหรือไม่ยอมรับ หรือลงลึกกับความรู้สึกนั่นหมายถึงว่าน้อง ๆ อาจจะยังมีคุณสมบัติไม่พอ เพราะข้อสำคัญของนักจิตวิทคือต้องเข้าใจแต่ต้องไม่ร่วมความรู้สึกไปด้วย เลยอยากให้ระวังคำถามนี้ไว้
สุดท้ายยย~~~~~~
พี่ก็ติดแล้ววววว น้ำตาไหลเลยตอนประกาศ จำได้เลยว่าตื่นขึ้นมาดูตอนตี 3 แล้วมันประกาศเลย5456456456
เป็นไงกันบ้างน้อง ๆ จุใจไหมกับการรีวิวแบบละเอียดสุด ๆ ละเอียดดดดดดดดดเท่าที่จะละเอียดได้ ขอบคุณทุก ๆ นที่อ่านมาถึงตรงนี้เลยนะค้าาาบ หวังว่าจะได้เจอน้อง ๆ ที่สนใจในสายนี้และเลือกที่จะเข้าทางจิตวิทยาทุกคนเลย เจอกันตอนรีวิววิชาเรียนมาแน่ วันนี้พี่ซีไปก่อนนะ สวัสดีครับ ^3^
Ceemony.y
6 พ.ค. 67 เวลา 19:54 น.
480
views
แสดงความคิดเห็น