Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ย้อนเวลากลับไปยังอดีต จะกลับไปเรียนไหม?

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

ผมอ่านแนวย้อนเวลามานิดหน่อยและสงสัยว่าทำไมทุกเรื่องตัวเอกต้องกลับไปเรียนด้วย สงสัยว่าตาลุงอายุ 40 ย้อนกลับไปแล้วแต่งตัวไปเรียนทำไม? 

อีกเรื่องที่สงสัย ทำไมถึงเอาแต่ตีตราว่าผู้หญิงเห็นแก่เงินคือผู้หญิงไม่ดี ทำไมถึงบอกว่าเห็นแก่เงินถึงไม่ดี หากไม่ทำอะไรผิด

แสดงความคิดเห็น

16 ความคิดเห็น

Shalnark T Diabolus 8 พ.ค. 67 เวลา 09:21 น. 1

ทำไมต้องกลับไปเรียน ก็เพราะเป็นเด็กไง ต่อให้ความทรงจำเป็นคนโต แต่ตัวก็ยังเป็นเด็ก คิดว่าเด็กมีอำนาจตัดสินใจหรืออำนาจต่อรองกับพ่อแม่ว่าจะไม่เรียนมั้ยล่ะครับ


หิวเงิน = เลว อันนี้น่าจะเรียกว่าไม่เชิง โลกทุกวันนี้คนเราอยู่ได้ด้วยเงิน เพราะงั้นการที่ต้องการเงินมันก็เรื่องปกติ มันสำคัญที่การวางตัวและวิธีให้ได้เงินมามากกว่า แต่ถ้าหิวแต่วางตัวดีและวิธีการก็ไม่ผิดอะไร แต่ก็ยังโดนด่า อันนี้คนที่ด่าคือมีความLooserอยู่นะ

5
sakkarin2021 8 พ.ค. 67 เวลา 10:32 น. 1-1

ไม่เด็กแล้วนะ ส่วนใหญ่จะย้อนกลับไปเรียนมหาลัย จีบสาว 4-5 คน ทำตัวเท่สูญบุรี่ดื่มเหล้าเที่ยว kvt ดราม่าเรื่องความรัก ขับรถหรู ทำงานหาเงินเล็กๆ น้อยๆ เป้าหมายิ่งใหญ่แต่ไม่เริ่มสักที ทำตัวเป็นเด็กเหมือนพยายามหลอกผู้อ่านให้คิดแบบนั้น แต่มันไม่ได้ปะ ก็อายุ 40 กว่าแล้ว มองวัยรุ่น 18-19 ได้เหรอ

0
Shalnark T Diabolus 8 พ.ค. 67 เวลา 14:34 น. 1-2

ก็บอก "ย้อนกลับไป" ไม่ได้หมายถึงไปเกิดใหม่ หรือย้อนวัยไปตอนที่ยังเป็นเด็กเหรอ?

0
Shalnark T Diabolus 9 พ.ค. 67 เวลา 10:35 น. 1-3

แต่ถ้าหมายถึงย้อนกลับไปวัยมหาลัย มันก็ไม่ต่างเท่าไหร่หรอก ถ้าพื้นเพเดิมไม่ได้รวย ย้อนกลับมาอีกกี่รอบก็ไม่ใช่ว่าจะเริ่มโครงการใหญ่อะไรได้ โลกมันขับเคลื่อนด้วยเงิน ถ้าก่อนย้อนไม่ได้จดจำอะไรที่ช่วยให้ทำเงินมหาศาลได้มา จะย้อนกลับมาอีกกี่ครั้งมันก็แค่การติดลูปเท่านั้นแหละ ไม่สามารถออกจากวังวนเดิมได้หรอก มีต้องมีข้อมูลซักอย่างที่ช่วยทำให้เกิดจุดเปลี่ยน ถึงจะสร้างเส้นทางใหม่ที่ต่างจากเดิมได้ ส่วนบอกว่าเดิมก่อนย้อนอายุเข้าไป40 จะมาสนใจเด็ก18-19ไม่ได้ อันนี้ไม่ใช่แล้วครับ ในความจริง40-50ล่วงละเมิดเด็ก9-10ขวบยังมีเลย สัญชาตญาณเพศผู้อ่ะครับ เจออะไรสวยๆงามๆมันก็สนใจแหละไม่เกี่ยวกับอายุหรอก

0
sakkarin2021 9 พ.ค. 67 เวลา 17:34 น. 1-4

ตามนั้น แต่ในมุมมองผม หากย้อนกลับไป 20 กว่าปี อายุ 18-19 ก็สามารถเริ่มธุรกิจได้แล้วน่ะ อย่างน้อยก่อนจะกลับไปคุณน่าก็มีความสนใจในอะไรบ้างอย่างอยู่แล้ว สูตรอาหารหรือเทคนิคบางอย่างที่สามารถเป็นเจ้าแรกในการสร้างธุรกิจได้ เงินทุนไม่ใช่ปัญหา SME หรือ เว็บระดมทุนสามารถใช้ได้ ขอแค่มีความทรงจำในอนาคตว่าโลกจะวิ่งไปทางไหนแค่นี้ก็สบายแล้ว เหมือนอย่างคนที่ประสบความสำเร็จในโลกเรา เพราะสิ่งที่เขาทำเขาเชื่อว่ามันทำได้ และเขาก็ทำถูกทาง สำหรับคนที่ย้อนกลับมา โกงขนาดนี้รวยไม่ได้ก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้วครับ เรื่องของชาย 40 มองเด็ก 18-19 มันก็มีบ้างละในโลกของเรา แต่การยกเอามาเป็นตัวเอกนี้อะไรกัน ถึงจะเลวยังไง ตัวเอกของเราก็ควรแสดงเจตนาความถูกผิดบ้างเถอะ แต่ก็อย่างที่คุณกล่าวมา บางทีคนเขียนก็แอบเอาสันดานของตัวเองออกมาโดยไม่รู้ตัวก็ได้เนอะ

0
Shalnark T Diabolus 10 พ.ค. 67 เวลา 14:54 น. 1-5

ผมว่ามองแบบนั้นก็ไม่ถูกซะทีเดียวนะ คือถ้าใช้วิิธีคิดแบบการหาทุนทำSME ณ เวลานี้ คนอายุ19-20ก็อาจจะพอหาทุนได้ แต่ถ้าย้อนกลับไป20ปีทีแล้ว คนไม่ได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนง่ายเท่าตอนนี้นะครับ ต้องไม่ลืมว่าย้อนไป20ปี สภาพสังคมและเศรษฐกิจก็เป็นสไตล์20ปีก่อน ไม่ใช่สไตล์หรือสภาพปัจจุบันด้วยนะ สมาร์ทโฟนยังไม่มีเลยด้วยซ้ำ อินเตอร์เน็ตก็พึ่งจะเริ่มแพร่หลาย เว็บระดมทุนที่ว่ามีเกิดขึ้นมารึยังก็ยังไม่รู้เลย ถ้าก่อนย้อนมีข้อมูลเช่นว่า...หุ้นตัวนี้จะโต บริษัทนี้จะบูม ในช่วงเวลาไม่ไกลจากตอนที่ย้อนไปมากนัก แบบนี้มันก็พอจะทำอะไรได้บ้าง แถมอีกอย่างมันก็ต้องขึ้นกับสภาพการเงิน ณ ช่วงเวลานั้นๆด้วย อย่างการเปิดพอร์ตซื้อขายหุ้นยุค20ปีก่อนกับยุคนี้ต้นทุนก็ไม่เท่ากันนะครับ รู้ว่าบริษัทนี้จะโตแบบก้าวกระโดด แต่ถ้า ณ เวลานั้นไม่มีเงินที่จะเข้าไปร่วมจอยรับผลประโยชน์ ถึงรู้ไปก็เท่านั้นแหละครับ หรือถ้าจะเอาสิ่งที่คนอื่นหรือที่ตัวเองเคยทำสำเร็จมาเริ่มทำให้เร็วขึ้น เคสนี้จริงๆมันก็ดาบ2คมครับ เรื่องแบบนี้บางทีมันต้องอาศัยจังหวะและช่วงเวลาด้วย ก่อนย้อนคนที่ทำสำเร็จเค้าอาจจะทำมันได้ถูกจังหวะเวลาพอดีมันถึงบูม การที่ไปเร่งทำก่อน มันสามารถออกผลขึ้นมาได้ทั้งในแง่ดีคือบูมเร็วกว่าชีวิตก่อน แต่ในอีกทางมันก็อาจจะไม่บูมเท่าเพราะจังหวะเวลายังไม่ได้ก็ได้ หรือที่ร้ายกว่าคืออาจจะโดนคนที่มีกำลังในการโปรโมทมากกว่าเรา ณ เวลานั้นก็อปไปแล้วสิ่งนั้นมันก็บูมขึ้นมาในมือคนอื่นที่ไม่ใช่เราก็ได้เหมือนกัน การตลาดมันเป็นแบบนี้แหละครับ มันคิดแบบตรงไปตรงมาอย่างมีข้อมูลจากอนาคตมาแล้วย้อนไปต้องยิ่งใหญ่กว่าเดิม อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก แต่ถ้าพูดถึงในแง่งานเขียน ผมว่าคนเขียนก็คงไม่ได้คิด(หรือไม่ได้เข้าใจ)เรื่องสังคม เศรษฐกิจ หรือการตลาดลึกขนาดนี้หรอก คาดว่าคงจะไม่เข้าใจลักษณะวิธีคิดหรือความต้องการของคนวัย40+ที่ชีวิตประสบความสำเร็จซะมากกว่า ก็เลยเอารูปแบบความคิดของคนอายุ10ปลาย-20ต้น(ซึ่งน่าจะเป็นวัยของตัวเอง)ใส่มาทั้งดุ้นเลย

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

Apple Pencil Pro 8 พ.ค. 67 เวลา 09:46 น. 3

ผมเพิ่งไปอ่านบทความจากเว็บ the matter


เวลาเรามีอายุมากขึ้นจะมีอาการโหยหาอดีตของตัวเอง แม้มีเรื่องแย่ฝังใจช่วงวัยเรียนก็ตามทีเถอะ มักจะคิดถึงแต่ความทรงจำดีๆเท่านั้น แต่ถ้ามีอดีตเลวร้าย เช่น กลั่นแกล้ง ผลสอบแย่ เรื่องชกต่อย ครอบครัวแตกแยก อื่นๆ เรามีความคิดจะกลับไปแก้ไขอดีตที่เลวร้าย เพราะเชื่อว่า ยิ่งอายุมากเท่าไร เรายิ่งมีอำนาจพอที่จะชำระล้างแผลทางจิตใจ โดยอุปโลกน์ตัวเองว่าเราเปลี่ยนแปลงอดีตสุดเลวร้ายของตัวเอง ทั้งที่จริงไม่มีทางกลับไปยังอดีต


ใครติดเกมแล้วอ่านของผมงง (เพราะติดเกมจนแยกความจริงไม่ออก) ขอแปลเป็นภาษาเกมละกัน สมมติ อายุของคุณคือ 48 เท่ากับคุณมีเลเวล 48 จึงคิดว่าตัวเองสามารถตบบอส (พวกบูลลี่) เลเวล 13-18 ช่วงวัยรุ่นสำเร็จแน่ เพราะคุณมีเลเวล 48 ตบบอสเลเวล 13-18 ปี หรือรู้ผลลัพธ์มาก่อนจึงคิดจะเปลี่ยนเส้นทางที่ดีกว่าเดิม ทั้งมวลนี้ เหล่าผู้เล่นจึงสร้าง new game plus ของตัวเอง มันคือตัวแทนการปลอบใจตัวเองว่า กูย้อนเวลาตัวเองได้ (ภาษาบ้านเรียกอุปโลกน์)


เพราะแบบนี้ไง จึงมีนิยายหรือวรรณกรรมแนวกลับไปใช้ชีวิตครั้งที่สองแบบ new game plus อ่ะแหละ เพราะยิ่งแก่ยิ่งอยากจะแก้ไขอดีตของตัวเอง คงรู้แล้วใช่มั้ย พวกผู้สูงอายุถึงชอบพูดแต่เรื่องอดีตซ้ำซากจนเด็กรำคาญ (ส่วนตัวเบื่อพอๆกับเรื่องต่างโลก เพราะนี่มันเรื่องของคนอื่น ไม่ใช่เรื่องของผม)


อ่านเพิ่มเติมได้จาก https://thematter.co/lifestyle/nostalgia-is-complicated/225465 ทุกอย่างคือธรรมชาติคนเราทั้งนั้น

2
sakkarin2021 8 พ.ค. 67 เวลา 10:22 น. 3-1

หุๆๆ คนที่ชอบแนวนี้คือพวกที่อยากกลับไปแก้ไขอดีตสิน่ะ แต่ผมไม่รู้สึกแบบนั้นน่ะ ผมชอบเสพเรื่องที่ตัวเองมีของโกงๆ อะไรก็ได้ เช่น ความทรงจำ ระบบ นิ้วทองอะไรก็ได้ที่โกงชาวบ้านเขา ต่างโลกที่ผมชอบคือความโกงเฉพาะตัวเอกที่ไปต่างโลกต้องมี หากไปต่างโลกแล้วไม่มีผมก็ไม่ชอบ ไปต่างโลกแล้วไปดิ้นรนกับชีวิตที่ลำบากแบบนี้ก็ไม่เอา แต่ถ้าไปต่างโลกแล้วเป็นโลกนิยายที่เรามีข้อมูลในอนาคต ใช่อันนี้ชอบ เพราะโกง ย้อนเวลากลับมา อันนี้ก็ชอบ เพราะโกง มีความรู้ มีข้อมูลในอนาคต ไม่เกี่ยวกับว่าย้อนกลับไปแก้อดีตอะไรหรอก แค่อยากเห็นพระเอกโกง ไม่ย้อนก็ได้ หากมีพลังมองเห็นอนาคต เห้อ พิมพ์เยอะไปละเหมือนร้อนตัว โทษที ฮ่าๆ แต่จะว่าไปมันก็คล้ายกับที่ว่ามาเลยเนอะ

0
Apple Pencil Pro 8 พ.ค. 67 เวลา 15:06 น. 3-2

ต่างโลกไม่ใช่การย้อนเวลาหาอดีต คนละเรื่องกันเลย


เรื่องตัวเอกโกง ส่วนตัวกลับไม่ชอบเลย ไม่ได้เกี่ยวกับว่าใครประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวในชีวิตจริง แต่นักเขียนหลายๆคนพยายามเขียนให้ตัวเอกเป็น Wannabe Faust (เฟ้าสต์เห่อxมอย) คือขายวิญญาณให้กับ “ระบบ” โดยไม่มีผลข้างเคียงตามมา ตัวเอกก็เลยทำอะไรก็ดีไปหมด ด้วยแก้ปัญหาง่ายบ่อยๆเข้า หลายคนเจอทางตันง่าย เขียนต่อไม่ไหว ถ้าไม่เททิ้งหนีไปเขียนเรื่องใหม่ ก็ต้องเขียนนอกเรื่องจนคนอ่านเลิกตาม


และใส่ระบบเกมเข้า ชอบคือชอบ ไม่ชอบคือเกลียดตั้งแต่ตอนแรกเลย คนที่ไม่ชอบน่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกเล่นเกม hard mode ไม่ใส่สูตรโกงตลอดเวลา กับพวกที่รู้สึกว่า นักเขียนกำลังเล่นเกม easy mode ให้คนอ่านดูต่างหาก หรือกำลังอ่านพวกเด็ก ป.1 ป.2 ถูกบูลลี่จากตัวเอกที่จบปริญญาเอก ไม่ต่างอะไรกับคนชอบบูลลี่คนอ่อนแอไปทั่วอ่ะ

0
แบะๆ 8 พ.ค. 67 เวลา 10:57 น. 4

ถ้ามองจากแง่มุมคนอายุ 30 มันก็รู้สึกนะว่าเบื่อชีวิต เพื่อนหายหมด ทุกคนต้องทำงาน ไม่ค่อยมีเวลาให้กัน ขณะที่เด็กนั้นที่โรงเรียนคือ...อารมณ์ไม่ได้อยากกลับไปเรียน แต่อยากกลับไปเจอเพื่อนมากกว่า คนที่อยากกลับไปเรียนก็มี รู้สึกว่าเรื่องที่เราเคยรู้สึกว่าน่าเบื่อ พอเป็นผู้ใหญ่แล้วมันดูง่ายขึ้น ก็อยากลองเรียนดูสักตั้ง แบบนั้นก็มี นี่ก็มีเพื่อนที่อยู่ดีๆ ก็เริ่มเรียนอะไรที่เขาก็บอกว่าไม่เคยคิดอยากเรียนมาก่อน เราเองบางทีก็เกิดอาการนั้นเหมือนกัน จากที่เคยคิดว่าเรียนน่าเบื่อ อยากเล่น มันก็มีอาการประเภทอยากหาอะไรเรียนเพิ่มขึ้น อยากรู้เรื่องนั้นเรื่องนี้ อยากเรียนเพราะแค่อยากรู้ เรียนกลายเป็นเหมือนของเล่น และเรื่องการอยากเจอเพื่อนด้วย


พอโตเป็นผู้ใหญ่แล้วก็แน่นอน สมองพัฒนากว่าเด็ก เพราะงั้นเรื่องที่สมัยเด็กเคยรู้สึกว่ายาก น่าเบื่อ พอโตเป็นผู้ใหญ่ก็รู้สึกว่ามันกลับน่าสนใจขึ้นมาที่จะลองเปิดใจเรียน มันก็มี แต่ถ้าอยากกลับไปตอนเด็กแค่เพราะอยากไปแก้แค้นบูลลี่....อันนั้นยากนะ แค่ฝันหวาน


มีนิทานอยู่เรื่องหนึ่งค่ะ เรื่องลาโง่กับสิงโตแล้วก็เสือ ลาโง่เถียงกับเสือ ท้องฟ้าเป็นสีอะไร ลาโง่เถียงคอเป็นเอ็นว่าสีชมพู แต่เสือดูยังไงก็สีฟ้า เลยไปให้สิงโตตัดสิน สิงโตบอกท้องฟ้าเป็นสีชมพู ทำให้ลาโง่ดีใจ แล้วสิงโตก็ลงโทษเสืออีก ไม่ใช่ว่าเพราะสิ่งที่เสือพูดมันผิด แต่เพราะเสือ "เถียงกับคนโง่"


ความคิดว่าอยากกลับไปแก้แค้นบูลลี่เพราะตอนนี้ฉันเลเวลสูงแล้วก็อารมณ์ราวๆ นั้นแหละ คุณเก่งขึ้นแล้วไง? เลเวลขนาดไหนก็ไม่ชนะคนโง่หรอก


ในเรื่องผู้หญิงหิวเงิน เราสงสัยว่าคนที่มีทัศนคติกับผู้หญิงแบบนั้นเขาเป็นคนแบบไหน เด็กผู้ชายที่ไม่รู้จักผู้หญิง ผู้ชายที่การเงินดีเลยมีแต่คนหวังทรัพย์เข้าหาเหรอ? หรือคนที่ชอบผู้หญิงแรงๆ แบบนั้นแต่ก็ชอบบ่นที่พวกเธอหิวเงินและไม่รักตัวเองจริง หรือเป็นพวกอุดมคติสูง พวกอยากทำตัวสวยบอกว่าเงินไม่สำคัญแต่มีคนเลี้ยงอาหารตลอดเวลา มองตัวคนเขียนทัศนคตินั้นแล้วจะรู้ว่าเขามีเหตุผลหรือเขาน่าเกลียด

3
แบะๆ แบบเพิ่มเติม 8 พ.ค. 67 เวลา 11:02 น. 4-1

ถ้าอยากรู้ว่าการกลับไปอยู่กับสังคมวัยเรียนเพราะอยากอวดเก่งเด็กเป็นยังไง ง่ายๆ ค่ะ ซิมูเลชั่นแบบเรียลๆ มีให้เห็น เปิดเข้าเฟซค่ะ หาเพจที่พวกที่เหมือนมีเด็กรวมกันเยอะๆ หน่อย เปิดดีเบทกับพวกเขาซะ นั่นแหละสิ่งที่คุณจะเจอถ้าย้อนกลับไปวัยเรียนอีกครั้งแล้วอยากอวดเก่งกับคนประเภทนั้น

0
sakkarin2021 8 พ.ค. 67 เวลา 11:28 น. 4-2

เขาคงเขียนมาเพื่อแบบนั้น ย้อนกลับไปเรียนเพื่อทำในสิ่งที่นักเรียนส่วนใหญ่ทำไม่ได้ รับคำชมและคำยกยอจากเด็กคนอื่นๆ คงเขียนมาสำหรับนักเรียนในวัยนั้นกระมั่ง เราเกินวัยมาแล้วพอมาอ่านรู้สึกขัดใจ แต่เจอเยอะมากจนเริ่มตั้งคำถามว่ามีแต่แนวนี้เหรอ อยากอ่านแนวตัวเองย้อนกลับไปแล้วไม่เรียน มุ่งเป้าไปสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น เช่นสร้างจรวดไปดวงจันทร์หรือเปิดบริษัทระดับโลกอย่าง google มีแนวนี้ไหมครับ แนะนำกันหน่อย

0
แบะๆ 8 พ.ค. 67 เวลา 11:36 น. 4-3

ถ้าจะเอาแนววิทยาศาสตร์ประเภทสร้างจรวดไปดวงจันทร์เราว่าหายากนะ เอาคนที่เขียนเรื่องแบบนั้นได้มาเขียน มันมีน้อยที่จะเขียนได้น่าสนใจ ไม่น่าเบื่อชนิดเด็กหาว นิยายที่ขายดีจะเป็นประเภทอ่านง่ายมากกว่า


แต่ถ้าเป็นแนวตัวเอกข้ามโลกไปแล้วตั้งเป้าจดจ่อแค่ว่าอยากเก่งขึ้นมา มีอ่านอยู่ล่าสุดคือ Hell Mode ไม่แน่ใจว่าจะถูกใจหรือเปล่า ส่วนตัวว่าสองเล่มแรกสนุกดี แต่เล่มหลังๆ เริ่มน่าเบื่อขึ้น ตัวร้ายประเภทมีอำนาจแต่มาให้ตัวเอกลูบคมแบบโง่ๆ ก็มี แต่รู้สึกว่าไม่ได้เน้น


ไม่แน่ใจว่าพูดเยอะดีหรือเปล่า กลัวสปอยร์

0
เพชฌฆาตเล็บเจล/ฮั่งเซี่ยวอุง 8 พ.ค. 67 เวลา 12:19 น. 6

คนที่อ่านนิยายคือคนที่อยากได้สิ่งบันเทิงมาทำให้สนุกสนานค่ะ

ทีนี้ก็ขึ้นกับว่าสิ่งบันเทิงในนิยามของแต่ละคนคืออะไร

บางคนอยากได้ฟีลกลับไปแก้ไขอดีตที่ผิดพลาดได้

บางคนรู้สึกอยากเทพ อยากมีสกิลพิเศษขี้โกงเหนือกว่าใครอื่น (เช่น จขกท ที่ชอบอ่านแนวนี้)

บางคนอยากสโลว์ไลฟ์ ปลูกผักทำกับข้าว แถมมีผัวใครไม่รู้พร้อมสำเร็จแพ็คคู่กับลูกฟรีที่ไม่ต้องเจ็บกีเบ่งคลอดออกมาเอง

เป็นต้น

ดังนั้นนิยายจึงขายได้ทุกแนวค่ะ มากหรือน้อยขึ้นกับความนิยมในพล็อตและสำนวนนักเขียน


ส่วนเรื่องเห็นแก่เงิน แล้วแต่ว่านักเขียนจะเขียนออกมาแบบไหนค่ะ ถ้าเห็นแก่เงินแล้วทำเรื่องแย่ๆ คนอ่านก็ด่า ถ้าเห็นแก่เงินแล้วอุตสาหะพยามในด้านดี คนอ่านก็เชียร์ ทุกอย่างขึ้นกับปลายนิ้วพิมพ์ทั้งนั้น


ส่วนดิฉัน ความบันเทิงคึือมีผัว 7 คนเป็นซอมบี้ ต้องวิ่งสู้ฟัดแทบตุยอยู่ในนิยายค่ะ

ว่าแล้วก็แปะ

https://writer.dek-d.com/purplelotus/writer/view.php?id=2431786

0
มัณทนา 8 พ.ค. 67 เวลา 14:58 น. 7

ถ้าตัวเอกเป็นคนสมัยโบราณอายุ 18-19 ปีและเป็นหมอสมุนไพร

เรียนรู้เรื่องการแพทย์ การปรุงยาสมุนไพร และสาธารณสุขมาตั้งแต่เด็ก ๆ

ต้องเดินทางข้ามเวลาไปโลกอนาคต

ต้องเรียนหมอ เภสัช สาธารณสุข 6 ปีรวมกับคนรุ่นเดียวกันในยุคปัจจุบันด้วยเหรอคะ

ในเมื่อตัวเอกทำงานเกี่ยวกับการแพทย์อยู่แล้ว

เพราะบริบทสังคมในสมัยโบราณทำงานหาเลี้ยงชีพกัน

ยังไม่มีโรงเรียน มหาวิทยาลัย

มีแต่พวกชนชั้นอีลิทเท่านั้นที่ได้เรียนหนังสือ

ในขณะที่คนรุ่นเดียวกันในยุคปัจจุบันต้องมาเจอตรรกะบ้ง ๆ ในระบบการศึกษาแบบนี้

0
เคนชิ 8 พ.ค. 67 เวลา 15:21 น. 8

วัยเรียนมีเวลาปิดเทอมเยอะกว่าวัยทำงาน วันปิดเทอมของคนวัยทำงานที่แท้จริงคือ เทศกาลอำลาปีเก่าต้อนรับปีใหม่ กับเทศกาลสงกรานต์เท่านั้น รวมปนะมาณ 15 วันต่อปี เพราะงั้นคนถึงคิดวัยเด็กที่มีเวลาง่างเยอะกว่า

1
ฟอำพพำ 8 พ.ค. 67 เวลา 17:13 น. 9

เป็นผมเจอแบบนี้หาเรื่องใหม่อ่านแล้ว เงิบเกิน เขียนอะไรของมัน นิยายให้อ่านมีเป็นล้าน เงิบก็แค่โยนลงถัง เสียเวลาทำความเข้าใจ

0
Miraclemoon 10 พ.ค. 67 เวลา 14:03 น. 11

ไม่อยากเรียนแล้วค่ะ แบบว่าเบื่อเรียนง่ะ ถ้าจำเป็นต้องเรียนจริงๆ ขอเลือกเรียนเป็นคอร์สสั้นที่สุด


0
สื่อศิลป์ 10 พ.ค. 67 เวลา 14:22 น. 12

ถ้าพูดถึงนิยายแปลต่างประเทศ ที่ตัวเอกย้อนเวลา ย้อนอดีต หรือทะลุมิติ อะไรก็ตามถ้าอยู่ในวัยเด็กต้องไปเรียน แทบทุกเรื่องในนิยายหรือมังงะ


ตรงนี้คุณต้องเข้าใจวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของสังคมเขา ประเทศที่เลียนแบบวิถีสังคมฝรั่ง เขาจะมีสำนึกรับผิดชอบในหน้าที่ตัวเองสูงมากๆ เป็นเด็กมีหน้าที่ศึกษาเล่าเรียนก็ต้องทำ ผู้ใหญ่มีหน้าที่สนับสนุนเด็กก็ต้องทำเต็มที่

มันเลยติดไปถึงนิยาย มังงะ ตัวเอกเป็นเด็กยังไงก็ต้องเข้าสถาบันการศึกษา ถ้าไม่ใช่นิยายแนวโรงเรียนส่วนใหญ่ก็จะให้ตัวเอกเรียนจบไวแล้วไปพาร์ทอื่นต่อ ไม่มีผู้เขียนนิยายหรือมังงะคนไหนกล้าแหก เหมือนกฏเหล็กนิยายหรือละครที่นางเอกจะมีเพศสัมพันธ์กับพระเอกคนเดียวเท่านั้น(จริงๆก็อาจจะมีแหกบ้างอ่ะนะแต่มันก็เป็นส่วนน้อยมากกกกกก)


ก็เป็นการคาดเดาส่วนตัวจะจริงหรือไม่จริงก็ใช้วิจารณญาณกันเอาเองละกันครับ ผมไม่รับรองอะไรทั้งนั้น

1
sakkarin2021 12 พ.ค. 67 เวลา 09:29 น. 12-1

ชอบอวยตัวเองว่าหล่อสวยด้วยใช่ไหม เจอบ่อยมากและก็สงสัยสุดๆ https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/bb-06.png

0
DaWrite 10 พ.ค. 67 เวลา 14:38 น. 13

เรียนครับ แต่จะเลือกเรียนในสิ่งที่อยากเรียน สายที่อยากเรียน เพื่อต่อยอดตัวเองไปยังจุดที่อยากไปให้ได้ ต่อยอดไปยังอนาคตของตัวละครได้ง่าย

0
January Ghost 11 พ.ค. 67 เวลา 10:33 น. 14

ถ้าไม่ใช่เหตุผลว่าชอบการเรียนอ่ะนะ

ข้อดีของการย้อนเวลา คือเราล่วงรู้อนาคตแล้วว่าอะไรจะเกิดขึ้น

เช่น รู้งี้เริ่มเทรดหุ้นตั้งแต่ตอนเด็ก ป่านนี้พอร์ตคงรวยมหาศาลแล้ว

พอได้ย้อนกลับมาจริงๆ ก็จะพบว่า 1.เงินลงทุนไม่มี ต้องหาเอาจากการทำงานพิเศษ 2.งานที่สมัครได้ก็มีไม่มากเนื่องจากข้อจำกัดทางอายุ

การไปเรียนเลยน่าสนใจกว่า เพราะเงินก็ไม่ต้องหา นั่งเรียนในสิ่งที่รู้อยู่แล้ว ได้กุ๊กกิ๊กมีความรักตามประสาวัยรุ่น


ส่วนเรื่องผู้หญิงเห็นแก่เงินเป็นคนไม่ดี เอาจริงๆ มันแล้วแต่ค่านิยมสมัยนั้น เพราะช่องทางหาเงินของผู้หญิงมีน้อย อาชีพที่รองรับผู้หญิงก็น้อย มีไม่กี่อย่างที่ทำเงินได้ดี แปลว่ามันยิ่งทำให้ดูแย่


แต่ถ้าสมัยนี้ถ้าใครมาบอกว่าเราหิวเงิน ก็บอกได้เลยว่า "ใช่ค่ะ" https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-02.png


1
11-12 11 พ.ค. 67 เวลา 21:24 น. 15

เรียน อยากเรียนมาก เชื่อว่ากลับไปแล้วต้องเป็นที่หนึ่งของห้องแน่นอน เพราะระบบความคิดของเราตอนนี้มีวิธีการในการจัดการความจำให้จำบทเรียนได้เก่งมากๆ

อยากเป็นคนเก่งของห้อง ฮา

0
ลูเซีย The jar's modeller 12 พ.ค. 67 เวลา 14:40 น. 16

ต้องขึ้นอยู่กับเป้าหมายการใช้ชีวิต

ถ้าอยากได้งานที่ดีที่ต้องมีวุฒิการศึกษา ย่อมต้องเรียน


แต่ถ้าอยากเป็นแค่พ่อค้าหรือทำงานที่ไม่ต้องการวุฒิ แล้วเรารู้สึกว่ามีความรู้มากพอแล้วก็ไม่ต้องเรียน อยากทำอะไรก็ทำไปเลย


ปล. แล้วการกระทำแบบใดที่เรียกว่าเห็นแก่เงิน

1
sakkarin2021 12 พ.ค. 67 เวลา 17:22 น. 16-1

หลายเรื่องที่ผมอ่านคือ ตัวเอกย้อนกลับมาช่วงจบมอปลายกำลังเข้ามหาลัย ช่วงปิดเทอมสามารถหาเงินได้หลายแสนหยวน แต่ก็วางแผนจะเข้ามหาลัย ระหว่างเรียนหาเงินได้เป็นล้าน มีบ้านมีรถมีเมีย แต่ก็ยังคงไปเรียน ผมแค่สงสัยว่าไปเรียนทำไม ทำไมไม่ออกมาทำงานหาเงินแบบfulltimeไปเลย เสียเวลาเปล่า ทั้งเรื่องคือปัญหามาจากที่ตัวเอกไปเรียนนั้นแหละ หากไม่เลือกเรียนปัญหาทั้งเรื่องคือไม่มี ชีวิตจะดำเนินต่อไปอย่างราบรื่นมาก แต่ที่ผมอยากอ่านจริงๆ คือ ตัวเอกที่ย้อนกลับไปยุค 90 แล้วใช้ความรู้เปิดบริษัทระดับโลก จริงๆไม่ต้องมีความรู้ก็ทำได้เพราะเรารู้ว่าในอนาคตมีอะไร เช่นบริษัท google แม้จะเขียนโค๊ดไม่เป็น แต่รู้ว่าหากทำบริษัทบริการเสิร์ช เอนจิ้นต้องไปได้ดี ระดมทุนสร้างบริษัท จ้างโปรเกรมเมอร์ก็ไปรอดแล้ว บริษัทขาย วิดีโอ หรือ หากตัวเอกมีความสนใจอะไรก็สามารถทำได้ แต่ทุกเรื่องที่ผมอ่าน จำไม่ได้ ทั้งแปลไทยและเว็บนอก หลายสิบเรื่องมีแต่ตัวเองที่ย้อนกลับไปแล้วเลือกไปเรียนไปหาเงินนิดๆหน่อยๆไป วิ่งเข้าหาปัญหา ยกเหตุผลเล็กๆน้อยๆมาอ้าง จีบสาว ดรามาความรัก ทำตัวเหมือนเด็ก ปัญญาอ่อนมาก

0